วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2558

ภาคเหนือ

แม่แจ่ม



เริ่มต้นกันที่ "แม่แจ่ม" อำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ดินแดนนครลับแลแห่งเมืองล้านนา โดดเดี่ยวท่ามกลางป่า ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขา อยู่ในอ้อมกอดของแม่น้ำอย่างอบอุ่น รอยยิ้มผู้คนเป็นมิตร สนิทกันเหมือนญาติ นี่คือเอกลักษณ์และคำนิยามความเป็นแม่แจ่มได้อย่างชัดเจน เพราะที่นี่ยังคงเงียบสงบ มีหมู่บ้านอยู่ตามที่ราบและกระจัดกระจายอยู่ตามหุบเขาใหญ่น้อยที่ล้อมรอบเรียงรายอยู่ ชาวบ้านมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย อีกทั้งยังมีสถาปัตยกรรมที่งดงามมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นเสมือนไฮไลท์ของที่นี่ ก็คือ นาข้าวขั้นบันไดกว้างไกลสุดสายตา อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยว เช่น วัดป่าแดด, วัดกองกาน, วัดกองแขก, สถานีทดลองเกษตรที่สูงแม่จอนหลวง, สวนป่าแม่แจ่ม และหมู่บ้านทอผ้าซิ่นตีนจก ฯลฯ


ดอยผาตั้ง




ดอยผาตั้ง ตั้งอยู่ใกล้ทางหลวงหมายเลข 1093 กิโลเมตรที่ 89 เป็นจุดชมวิวไทย-ลาว มีความสูง 1,635 เมตร และเที่ยวชมทะเลหมอกได้ตลอดปี ในเดือนธันวาคมถึงมกราคมจะมีดอกซากุระบาน และเดือนกุมภาพันธ์ มีดอกเสี้ยวบานสะพรั่งงดงาม ซึ่งที่นี่เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า โดยเฉพาะจีนฮ่อนั้น อดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของกองพล 93 ซึ่งอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ดอยผาตั้งนี้ ปัจจุบันประกอบอาชีพทางการเกษตร ปลูกพืชเมืองหนาว เช่น บ๊วย ท้อ สาลี่ แอปเปิล และชา

            ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ จุดบริการนักท่องเที่ยวดอยผาตั้ง โทรศัพท์ 0 5391 8301 หรือองค์การบริหารส่วนตำบลปอ โทรศัพท์ 0 5371 0300, 0 5391 8265



พระตำหนักดอยตุงและสวนแม่ฟ้าหลวง



พระตำหนักดอยตุง ตั้งอยู่ในเขตอำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย พระตำหนักดอยตุงเคยเป็นที่ประทับแปรพระราชฐานเพื่อทรงงานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีรูปทรงผสมผสานระหว่างศิลปะล้านนากับชาเลย์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีการแกะสลักไม้ตามกาแล เชิงชายและขอบหน้าต่างเป็นลวดลายต่าง ๆ โดยฝีมือช่างชาวเหนือ รอบ ๆ พระตำหนักมีสวนดอกไม้หลากชนิด หลายสี ให้ความสวยงามสดชื่น โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะเห็นหมอกจาง ๆ บริเวณยอดเขารอบพระตำหนัก

            สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ สวนแม่ฟ้าหลวง ตั้งอยู่ด้านหน้าพระตำหนักดอยตุง มีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาว อาทิ ดอกซัลเวีย, พิทูเนีย, บีโกเนีย, กุหลาบ, ดอกลำโพง, ไม้มงคลต่าง ๆ ไม้ยืนต้นและซุ้มไม้เลื้อยอีกมากกว่า 70 ชนิด รูปปั้นต่อเนื่องฝีมือของ คุณมีเซียม ยิบอินซอย

            หอแห่งแรงบันดาลใจ เป็นอาคารแสดงพระราชประวัติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีและพระราชวงศ์ มีห้องจัดแสดงนิทรรศการ 8 ห้อง เปิดให้เข้าชมทุกวัน และยังมีร้านขายของที่ระลึก เสื้อผ้าไหม ผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวง ทั้งผัก ผลไม้ ดอกไม้ พันธุ์ไม้ต่าง ๆ ให้ซื้อกลับไปเป็นของฝากอีกด้วย

            ทั้งนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าชมทั้งพระตำหนักดอยตุง สวนแม่ฟ้าหลวง และหอแห่งแรงบันดาลใจ จำหน่ายบัตรรวม ราคา 160 บาท ซุ้มจำหน่ายบัตรเปิดเวลา 06.30-18.00 น. หลังเวลา 17.00 น. จำหน่ายเฉพาะบัตรชมพระตำหนักและสวนแม่ฟ้าหลวง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 

โทรศัพท์ 0 5376 7015-7

ดอยหัวหมด


ดอยหัวหมด ตั้งอยู่ในเขตอำเภออุ้มผาง และอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ลักษณะเป็นเขาหินปูนที่ทอดแนวยาวติดต่อกันหลาย มีความยาวประมาณ 30 กิโลเมตร กว้าง 2 กิโลเมตร บนภูเขานี้ไม่มีต้นใหญ่ขึ้น มีแต่ต้นหญ้าและไม้ดอกเตี้ย ๆ ขึ้นปกคลุมอยู่ทั่วไป เช่น ปรง ดอกเทียน และดอกไม้ป่า โดยเฉพาะดอกเทียนจะออกดอกบานสะพรั่งในช่วงฤดูฝน สลับกับโขดหินเป็นระยะ ๆ หากมองขึ้นไปบนเขาจะเห็นภูเขาทั้งลูกเหมือนถูกปูด้วยพรมสีเขียว โดยมีโขดหิน ต้นปรง ดอกเทียนป่า และไม้ดอกนานาชนิดขึ้นแซมเพิ่มสีสันดูสวยงาม

            หากขึ้นไปบนยอดเขาจะมองเห็นหมู่บ้านอุ้มผาง และทิวเขาสลับซับซ้อน ทัศนียภาพโดยรอบสวยงาม มีจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตก และดูทะเลหมอกยามเช้า ช่วงปลายฝนต้นหนาวจะมีทะเลหมอกที่สวยงาม โดยควรไปถึงดอยหัวหมดก่อนพระอาทิตย์ขึ้นเวลา 05.00-06.00 น. อากาศบนดอยค่อนข้างเย็น มีลมพัดตลอดเวลา



เขาโมโกจู



 เขาโมโกจู ขุนเขาแห่งความหนาวเย็น ด้วยความสูง 1,964 เมตร จากระดับน้ำทะเล โมโกจูจึงเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 27 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าไปกลับ 4-5 วัน แม้ระยะทางจะไกลและยากแก่การเข้าไปถึง แต่โมโกจูก็ยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางหลาย ๆ คน ที่จะเก็บเป็นความประทับใจครั้งหนึ่งในชีวิต ซึ่งผู้สนใจจะไปสัมผัสยอดเขาโมโกจู ต้องเตรียมร่างกายให้แข็งแรง เพราะทางเดินขึ้นเขามีความลาดชันไม่ต่ำกว่า 60 องศา ใช้เวลาในการเดินทางไป-กลับ 5 วัน และต้องพักแรมในป่าตามจุดที่กำหนด นอกจากนั้นควรศึกษาสภาพเส้นทาง สภาพอากาศ และติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางจากอุทยานฯ ซึ่งเปิดให้เดินขึ้นยอดเขาโมโกจูในเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ของทุกปี สอบถามข้อมูลได้ที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ โทรศัพท์ 0 5576 6436, 0 5576 6024, 0 5576 6027


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น